วันอังคารที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2555

ทฤษฎีของเรื่องตลก Theory of Comedy(3)

แต่อย่างไรก็ตาม ละครตลกบางเรื่องยังคงสามารถเตือนความสนุกสนานได้ แม้ว่าบรรทัดฐานต่างๆจะเปลี่ยนไปก็ตาม. ตลกกางเกงขี่ม้าของผู้ชาย Shakespeare อย่าง Viola ในเรื่อง Twelfth Night หรือ Rosalind ใน As You Like It ได้ปลุกเร้าผู้ดูในสมัย Elizabethan ให้หัวเราะออกมาได้ก็เพราะ บรรทัดฐานทางสังคมของยุคสมัยนั้นถือว่า ผู้หญิงไม่ควรใส่ เสื้อผ้าของผู้ชาย และภาพที่เห็นเกี่ยวกับ Viola และ Rosalind ในเครื่องแต่งตัวแบบผู้ชาย เป็นเรื่องที่ดูไม่ได้หรือไม่เหมาะสม. ทุกวันนี้ ผู้หญิงต่างก็สวมเสื้อผ้าแบบผู้ชายซึ่งถือเป็นเรื่องมาตรฐานธรรมดา และด้วยเหตุนี้ การเห็น Viola ในชุดกางเกงขี่ม้า ของผู้ชายจึงไม่ใช่เรื่องตลก.
มีอีกหลายสิ่งหลายอย่างในบทละครของ Shakespeare ที่เป็นเรื่องไม่เหมาะสมหรือถูกกาละเทศะสำหรับบรรทัดฐานในทุกวันนี้ แต่อย่างไรก็ตาม เหตุใดเรื่องตลกหรือหัสนาฏกรรมของเขาจึงยังคงให้ความสนุกสนานอย่างต่อเนื่อง อีกสี่ร้อยปีภายหลังได้ ทำไมเรายังคงหัวเราะกับเรื่องเหล่านั้นได้ ซึ่งบางที อาจจะไม่ใช้ในเหตุผลเดียวกันกับผู้ดูในสมัย Elizabethan เข้าใจ, แต่ละครตลกเหล่านั้นมันยังสร้างความขบขันต่อมาได้ก็เพราะ เขาได้เข้าถึง ความตลกขบขัน จากความเป็นมนุษย์มากกว่า เป็นเรื่องบรรทัดฐานของสังคมนั่นเอง.
แง่มุมที่น่าสนใจในที่นี้ 3 ประการเกี่ยวกับความไม่สอดคล้องหรือเหมาะสมกับกาละเทศะ คือ 1 เรื่องตามตัวอักษร(literalization) 2 เรื่องการพลิกกลับ(reversal) และ 3 ความมากจนเกินไป(exaggeration).
ในเรื่องตลกตามตัวอักษร เรื่องโจ๊กมาจาก การเป็นตัวแทนภาพอันหนึ่งของคำพูด และกระทำการในลักษณะตามตัวอักษร. ตัวอย่างเช่น เมื่อ Max Smart (GET SMART)ขอเจ้าหุ่นยนต์ Hymie ว่า “give me a hand”, Hymie ก็ดึงแขนข้างหนึ่งของมันออกมาแล้วส่งให้ อันนี้เป็นการตีความเชิงตรรกตามตัวอักษรตรงๆของหุ่นยนต์ Hymie.
การพลิกกลับ ก็คือการพลิกผวนไปจากธรรมดานั่นเอง นั่นคือ อะไรที่เป็นธรรมดาและเป็นที่คาดหวัง กลับกลายเป็น อีกเรื่องหนึ่งไป ในทางตรงกันข้าม อันนี้อย่างเช่น ตอนที่ Retief, ในนวนิยายวิทยาศาสตร์ของ Keith Laumer ในเรื่อง Retief and the Warlords, ได้ถูกควบคุมตัว เขาคิดไปว่าผู้จับกุมเขาคงจะนำตัวเขาไปทรมานอย่างแสนสาหัส แต่การณ์กลับกลายเป็นว่า เขาได้ถูกทำร้าย ด้วยงานศิลปะสมัยใหม่ และภาพที่มีกลิ่นเกี่ยวกับความเหน็ดเหนื่อยที่ทุรนทุราย, ขนมปังปิ้งไหม้ๆ, ก๋วยเตี๋ยวผัดราดหน้า, เนยแข็งที่มีกลิ่นเหม็น และชื่อเสียงอันเลวร้ายที่จะได้รับจากผู้คน.
ในเรื่องของการเกินเลยไปจากความเป็นจริงที่เข้ามาทดแทนความเป็นปกติ ธรรมดา อันนี้จะเห็นได้จากตัวอย่างเหตุการณ์ต่างๆเกิดขึ้น ซึ่งบรรดาตัวละครทั้งหลายต่างมีปฏิกริยาเหนือไปจากความสัมพันธ์ที่เหมาะสม ทั้งหมด: เช่น ภูเขาทั้งลูกหลุดไปจาก เนินดิน ที่มันก่อตัวขึ้นมา พร้อมๆกัน หรือการค้นพบของภรรยาขี้หึงคนหนึ่ง เกี่ยวกับเส้นผมสีทอง บนเสื้อคลุมของสามี ได้นำเธอไปสู่ ฉากที่คิดขึ้นมาเองในใจ ของการนัดพบบ้าๆระหว่างสามีของตนและชู้รัก, การเดินทางไปสู่ Riveria, และพล็อทเรื่อง การฆาตกรรมที่จะมีต่อเธอ, จนกระทั่งเขาชี้ไปที่สุนัขตัวหนึ่งซึ่งนั่งอยู่ที่ใกล้เท้าของเธอ. การให้ภาพเกิน ความเป็นจริงไป เป็นมาตรฐานอันหนึ่งของเรื่องตลก
ความไม่เหมาะสมหรือถูกกาละเทศะที่สุดก็คือการละเมิดเกี่ยวกับข้อห้าม ต่างๆทางสังคมนั่นเอง. การฝ่าฝืนนี้สามารถ ปลุกให้คน หัวเราะได้มากที่สุด. Richard F. Taflinger ได้ยกตัวอย่าง เช่น ในสังคมอเมริกัน ข้อห้ามสุดๆที่ผู้คนระมัดระวังก็คือ การสนทนา กันเกี่ยวกับเรื่องเซ็กซ์ ความตาย และหน้าที่ทางชีววิทยา สิ่งเหล่านี้เป็นหัวข้อที่สังคมประกาศิตไว้ว่า ควรพูดคุยถึงเรื่อง ดังกล่าวอย่างจริงจัง อย่างรอบคอบสุขุม และอย่างสุภาพ ถ้าเผื่อว่าจะคุยกันถึงเรื่องราวเหล่านี้. จากข้อห้ามดังกล่าว เรื่องตลกต่างๆ ได้พลิกแพลงนำมาใช้กันมากเลยทีเดียว.
ธาตุแท้ข้อที่ 6 สำหรับความตลกขบขันคือ ดังที่ Aristotle ได้กล่าวเอาไว้ว่า “…ซึ่งจะต้องไม่เป็นเหตุให้เจ็บปวด หรือทำลายล้าง… มันอาจจะบีบคั้นแต่จะไม่มีความเจ็บปวด” อันนี้มีตัวอย่างเช่น ภาพการ์ตูนต่างๆได้ถูกรับรู้โดยผู้ดู ในฐานะที่เป็นผู้ซึ่งมีส่วนร่วม แต่จะต้องไม่เป็นอันตรายใดๆขึ้นมาจริงๆ: ทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ และอารมณ์ความรู้สึกที่เป็นสุข ผู้ดูอาจจะถูกขึงพืด ถูกบิดเบือน หรือถูกขยี้, แต่พวกเขาจะกู้ภาวะอารมณ์นั้นคืนกลับมาได้อย่างรวดเร็ว และในท้ายที่สุด พวกเขาจะได้ฟื้นคืนสู่สภาพปกติอีกครั้ง เหมือนดังเดิม.
ตัวอย่างที่นิยมยกกันมาก็คือ Road Runner ตัวการ์ตูนของ Wanner Brother ซึ่ง Wile E. Coyote (หมาป่า)ได้ถูกทิ้งลงมา, ถูกบดขยี้, ถูกตี, ถูกหมุน, ถูกบีบ ถูกอัด, หรือไม่เช่นนั้นก็ถูกทำโทษในความพยายามของมันที่จะจ้องจับ Road Runner, แต่ต่อมา มันก็ได้รับการนำกลับมาปะติดปะต่อกันใหม่เพื่อรอที่จะถูกฉีกขาดอีกครั้งใน ตอนต่อไป
จะเห็นได้ว่า เจ้าหมาป่านี้ไม่เคยที่จะถูกทำลายลงอย่างถาวร ไม่ว่ามันจะล่วงลงมาจากหน้าผาสูง หรือมีหินก้อนใหญ่กลิ้งมาทับมันก็ตาม.
บรรทัดฐานอันนี้ ได้ถูกนำมาประยุกต์ใช้กับชีวิตจริงด้วย. กล่าวคือ มันเป็นเรื่องที่สร้าง ความสนุกสนาน เมื่อมีใครลื่นไหลจาก พื้นน้ำแข็งและหกล้ม: ผู้คนจะหัวเราะออกมาดังลั่น – แต่หากว่าพวกเขารู้ว่าชายคนที่ลื่นหกล้มบนลานน้ำแข็งต้องขาหักหรือพิการ. เหตุการณ์นั้นจะทำให้ผู้ชมหัวเราะไม่ออกเอาเลย.
เกณฑ์ 6 ประการที่กล่าวมานี้ ได้ถูกนำเสนอเพื่อพยายามที่จะทำให้ความตลกขบขันประสบความสำเร็จ: ถ้าหากว่ามีอันหนึ่งอันใด ได้ขาดหายไป ความตลกขบขันก็จะล้มเหลว. ตราบเท่าที่ผู้ชมทราบถึง บรรทัดฐานต่างๆ และสามารถเห็นถึง ความไม่เหมาะสม หรือถูกกาละเทศะดังกล่าว คนที่มีส่วนร่วมกระทำในลักษณะที่ขาดความยืดหยุ่น แต่มีความเป็นมนุษย์โดยกำเนิด และไม่มีใครต้อง เจ็บตัว และผู้ชมไม่ได้ยึดถือมันว่าเป็นเรื่องส่วนตัว หากเป็นเช่นว่านี้ ความพยายามของเรื่องตลกอันนั้น จะประสบความสำเร็จสร้า งความสนุกสนานขึ้นมาได

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น